เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 28มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า เกิดปรากฏการณ์เมฆแบ่งท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ ออกเป็น 2ส่วน สุดขอบฟ้าตามแนวทิศเหนือจรดใต้ โดยด้านทิศตะวันออกเป็นท้องฟ้าโปร่งใส ขณะที่ฝั่งตะวันตกเป็นเมฆทึบตลอดทั้งแนว ทำให้มีประชาชนบางส่วนออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา บ้างแสดงความคิดเห็นว่า อาจเป็นลางบอกเหตุร้ายถึงความแตกแยกของสถาณการณ์ในบ้านเมืองหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เพื่อพิสูจน์ทราบความจริงถึงปรากฎกาลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถาม นายวัลย์ชัย พรหมโนภาส อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก่อนได้รับคำอธิบาย ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว น่าจะเป็นเมฆที่มีชื่อว่า อัลโตคิวมูลัส (Altocumulus) ซึ่งเป็นเมฆชั้นกลาง สูงจากพื้นดินประมาณ 6000-7000ฟุต โดยสาเหตุเกิดจากแนวปะทะของอากาศอุ่นชื้นจากด้านตะวันตกเฉียงใต้ มาปะทะกับแนวของมวลอากาศเย็นตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเริ่มอ่อนกำลังลง ลักษณะสภาพเมฆบนท้องฟ้าจึงเป็นแบ่งยาวตามแนวปะทะของมวลอากศที่แตกต่างกัน จากสภาพดังกล่าวพอจะบ่งชี้ได้ว่า มวลอากาศอุ่นเริ่มเข้าสู่พื้นที่ตอนบนของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้อากาศโดยรวมเริ่มอุ่นขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับเมฆในทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่า คือ น้ำในอากาศเบื้องสูง ที่อยู่ในสถานะเป็นหยดน้ำและผลึกน้ำแข็ง ซึ่งอาจมีอนุภาคของของแข็งที่อยู่ในรูปของควันและฝุ่นแขวนลอยในอากาศรวมอยู่ด้วย โดยนักอุตุนิยมวิทยาแบ่งเมฆออกเป็น 4ประเภท คือ เมฆระดับสูง เป็นเมฆที่พบในระดับความสูง 6500เมตรขึ้นไป ประกอบด้วยผลึกน้ำแข็งเป็นส่วนใหญ่ มี 3ชนิด คือ เซอร์โรคิวมูลัส เซอร์รัสและเซอร์โรสเตรตัส เมฆระดับกลาง ประกอบด้วย อัลโตสเตรตัสและอัลโตคิวมูลัส ซึ่งเกิดขึ้นในครั้งนี้ เมฆระดับต่ำ ประกอบด้วย สเตรตัส สเตรโตคิวมูลัสและนิมโบสเตรตัส และเมฆซึ่งก่อตัวในทางแนวตั้ง ประกอบด้วย คิวมูลัส และ คิวมูโลนิมบัส ส่วนชนิดของเมฆแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มคือ เซอร์โร (CIRRO) คือ เมฆระดับสูง อัลโต (ALTO) คือ เมฆระดับกลาง คิวมูลัส (CUMULUS) คือ เมฆเป็นก้อนกระจุก สเตรตัส (STRATUS) คือ เมฆเป็นชั้นๆ และนิมบัส (NUMBUS) คือ เมฆที่ก่อให้เกิดฝน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น